พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘
เพื่อให้เป็นไปตามกฏหมายดังกล่าว สมาชิกทุกท่านต้องอ่านทำความเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด
เข้าสู่ระบบ
หน้าแรก
เก้าสิบเก้าวัด
ร้านพระเครื่อง
กระดานสนทนา
สมัครสมาชิก
ติดต่อทีมงาน
ค้นหาข้อมูล
เข้าสู่ระบบ
เหรียญหัวกระโหล...
เหรียญหัวกระโหลกพรายกระซิบ เนื้อชนวน หลวงปู่สมบูรณ์ สำนักสงฆ์เขาพลอย
หลวงปู่สมบูรณ์ กันตสีโล
เกิดเมื่อ 09 ธันวาคม พ.ศ.2483
อุปสมบท : ไม่ทราบแน่ชัด
สภาณภาพ : มีชีวิตอยู่
หลวงปู่สมบูรณ์ กันตสีโล หลวงปู่สมบูรณ์ กันตสีโล เกิดเมื่อวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๔๘๓ ที่จังหวัดขอนแก่น ในระหว่างใช้ชีวิตฆราวาส ท่านพิจารณาถึงการใช้ชีวิตทางโลก โดยพิจารณาจากชีวิตความเป็นอยู่ของเพื่อนบ้านและเพื่อนฝูง ทำให้ในใจท่านมีแต่ความอยากออกบวชหาความพ้นทุกข์ จนกระทั่งท่านอายุ ๓๒ ปี จึงได้ขออนุญาตมารดาเพื่อออกบวช และเดินทางไปกราบนมัสการหลวงปู่ฝั้น อาจาโร หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ถามท่านว่า “ทำไมถึงอยากมาบวช” หลวงพ่อสมบูรณ์ได้ตอบหลวงปู่ฝั้นกลับไปว่า “ขอโอกาสหลวงปู่ กระผมเห็นทุกข์ทางโลก” เพียงเท่านี้ หลวงปู่ฝั้น ก็ไม่ได้ถามอะไรต่ออีกเลย หลวงปู่สมบูรณ์ กันตสีโล ได้ออกบวชเมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๑๕ จากนั้นท่านได้อยู่อบรม ทำข้อวัตรปฏิบัติ ศึกษาธรรมกับหลวงปู่ฝั้น อาจาโร สลับกับออกเที่ยววิเวกกรรมฐาน ธุดงค์ไปในเขตพื้นที่ภาคอีสาน จนกระทั่งหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ถึงแก่กาลมรณภาพ เรื่องราวของอาตมาที่เกี่ยวกับหลวงปู่ฝั้น อาจาโร นั้นก็ไม่ถึงกับว่าได้เป็นลูกศิษย์ท่านหรอกแต่อาตมาเคยอยู่ฟังเทศน์ฟังธรรมของท่าน เคยอยู่กับท่าน ๓ ปี พอท่านมรณภาพ ลูกศิษย์ลูกค้าก็ต่างแยกย้ายกันไป ใครมีหลักใจก็อยู่ได้ ส่วนเรื่องการบวชนั้นอาตมาได้บวชที่ขอนแก่นเพราะเป็นคนขอนแก่น แต่ก่อนที่จะบวชก็ได้บวชเป็นผ้าขาวอยู่ ๑ เดือน โดยถือผ้าขาวอยู่ที่วัดป่าอุดมสมพร ตอนไปเป็นผ้าขาวอยู่นั้น ก็มีโยมแม่ไปส่งกลับอาจารย์ดาวที่เป็นญาติกันอยู่ที่นั่น ก็เช่ารถไปจากขอนแก่นไปมอบตัวเป็นลูกศิษย์ลูกค้ากับหลวงปู่ฝั้น อาจาโร พอท่องขานนาคได้ก็เลยขอลาท่านมาบวชที่ขอนแก่น ท่านก็อนุญาต อาตมาบอกกับหลวงปู่ว่า ถ้าบวชแล้วผมก็จะกลับมาจำพรรษาอยู่กับหลวงปู่เหมือนเดิม จากวัดป่าอุดมสมพรมาอาตมาก็นุ่งผ้าขาวนั่นแหละมาขอนแก่น มีบาตรอยู่ลูกหนึ่ง บวชอยู่ได้ไม่นานก็ได้เก็บบริขารขึ้นรถไปลงที่วัดป่าอุดมสมพรที่เดิม ไปจำพรรษาอยู่กับหลวงปู่ฝั้นได้ ๓ พรรษา ตั่งแต่ปี พ.ศ.๒๕๑๕-๒๕๑๗ พอปี ๒๕๑๘ ก็กลับมาขอนแก่น พอปี ๒๕๑๙ ก็ไปจำพรรษาอยู่ที่จังหวัดหนองคาย อำเภอโพนพิสัย เป็นวัดตั้งใหม่ มีคนเขาถวายที่ให้ ๑๒ ไร่ ธุดงค์ไปแต่ในที่วิเวก ย้ายออกมาแล้วอาตมาก็กลับไปอีกทีเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๔ ก็ไปถามข่าว เขารื้อแล้ว เพราะเจ้าของเขาเอาที่ดินคืน เขาก็เลยมาสร้างที่ป่าช้า อยู่ห่างจากหมู่บ้านไปอีก ๒ กิโลเมตร ปลูกกระต๊อบอยู่ ไม่ได้เป็นวัด ชนะก็ยกเป็นหลัง หลังละ ๒ ห้อง หลังหนึ่งมุงสังกะสี อีกหลังมุงหญ้าแฝก ใช่ไหมอัดแผ่นหนึ่งเป็นหลังคา พอดีจะทำห้องน้ำ ห้องน้ำก็ไม่มีฝา ก็เลยแกะเอาไม้อัดมาทำเป็นฝาห้องน้ำ กุฏิที่อยู่ก็เลยต้องใช้เสื่อ ที่เราปูนั่งนี่แหละเป็นหลังคา อยู่มาตลอดพรรษา พระออกพรรษาประมาณเดือน ๑๒ ก็หนีเที่ยวมาเลยจนมาถึงจังหวัดเลย อยู่จังหวัดเลย ๑๐ ปี อยู่ที่อำเภอภูเรือ อำเภอท่าลี่ อำเภอวังสะพุง เที่ยวอยู่แต่ในที่วิเวก บ้านป่าบ้านดง สถานที่เก่าของหลวงปู่ชอบ ฐานสโม แถวนั้นเขารู้จักกะมาหมดแหละ นอนตามป่าช้า นอนตามไร่ข้าวโพดเขา พอตื่นเช้าก็ออกบิณฑบาต พอเป็นที่สัปปายะ ภาวนาแล้วจิตใจสงบก็อยู่ไป ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องความสุขทางกาย ไปอยู่สองคอนเดือนมีนาคมต่อเดือนเมษายนนี่ฝนตกตลอด มันหนาวยังกับเดือน ๑๒ เลยนะ พ่อกลางคืนฝนตกเพิงที่พักอยู่เปียกหมด ต้องเอากลดเอามุ้งออก เสือก็เอามานั่งทับไว้ สบงจีวรยัดใส่ในบาตรเอาฝาปิดไว้ นั่งสมาธิแล้วก้มหัวลงกับบาตร เรียกว่านอนลิง พอฝนหยุดตกแห้งแล้วก็เอาเสื่อมาปูแล้วก็กลางกลด แทบจะไม่ได้นอนเลย หลายวันเข้าก็คิดว่า เรามาอยู่นี่ก็ลำบากพอสมควร คิดว่าพรุ่งนี้จะลองถามเขาดู ถ้าเขาทำที่พักให้ก็จะอยู่จำพรรษาด้วย คิดในใจอย่างนี้ แต่ก่อนถนนหนทางก็เป็นทางดินลูกรังธรรมดา ไม่มีรถผ่าน พอเป็นทางลาดยางแล้วรถก็วิ่งเกือบทั้งคืนเลย เดี๋ยวนี้หาความสงบไม่มี พ่อคุยกับเขาแล้วเขาก็ทำที่พักให้เป็นกระต๊อบ ก็อยู่ไปพอใกล้เข้าพรรษา เขาก็เลยไปนิมนต์ ท่านพระอาจารย์สมศรี อัตตสิริ นิมนต์มาจากวัดป่าสวนกล้วย ที่ท่านเคยอยู่กับท่านพระอาจารย์จันทร์เรียน คุณวโร ที่วัดถ้ำสหายธรรม (ปัจจุบันหลวงพ่อสมศรี ท่านอยู่วัดป่าเวฬุวนาราม ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย) ท่านพระอาจารย์จันทร์เรียนก็บอกว่าก็ดีทั้งศรี จะได้เอายาหัวมาต้มด้วย ตอนอยู่ที่บ้านสองคอนนี้นะ อาตมามานอนอยู่ที่ป่าช้า นี่บางคนยังนึกว่าอาตมาเป็นผี เป็นพระที่กินคน บางคนเขาก็กลัวนะ เห็นอาตมาออกบิณฑบาตอยู่นี่เขาก็วิ่งหนีเลยนะ คือเมื่อก่อนมันมีข่าวว่า พระกินคน ฆ่ากันกิน ฆ่าคนตาย ชาวบ้านมาเก็บเห็ดเก็บอะไรตามป่า เห็นอาตมานี่วิ่งหนีเลย ถึงขนาดนั้นเลยนะสมัยก่อนคนบ้านป่าบ้านดง ปลูกป่าสร้างวัด ที่อาตมามาอยู่นี่มันก็แปลกเหมือนกันนะ มาอยู่ได้ยังไง ไม่อยู่ตั้งแต่ปีพ.ศ.๒๕๓๖ ป่าที่เห็นอยู่นี้อาตมาปลูกใหม่นะ แต่ก่อนลบหมดเลย ไม่มีอะไรเลย เนื้อที่ทั้งหมด ๑๕๐ ไร่ แต่ก่อนเขามาเอาดินไปขาย ตอนที่อาตมาปลูกต้นไม้นี่ทีแรกเลย ก่อนที่จะมีก๊อกน้ำว่าเป็นจุดๆ ตอนเช้ามืดกว่าจะสว่างเอาสายยางเสียบหัวก๊อกแล้วก็ดึงลากมารดน้ำต้นไม้ เอาผ้ากรองแขวนไว้ตรงเอวหรือสะพายไว้ ใกล้สว่างก็วางสายยางแล้วก็ไปลงศาลา จัดศาลา บางทีก็จัดศาลาก่อน บางทีตี ๓ ตี ๔ ไปจากศาลาเสร็จแล้วก็มารดน้ำต้นไม้ ว่าจะสว่างก็เข้ากุฏิวางผ้าครอง ออกไปศาลาคลองผ้าแล้วก็ออกไปบิณฑบาต ไปๆ มาๆ โยมจากกรุงเทพฯ ก็ไม่เห็นอาตมาทำอย่างนี้เขาก็เลยซื้อสายยางมาให้ ก็เลยได้ระบบน้ำหยด ไปหาซื้อที่จังหวัดเลย ปุ๋ยเขาก็ให้งานเกษตรอำเภอขายไม่หมดมันค้างสต๊อก เขาก็เลยเอามาถวายพระ พอทำน้ำหยดก็สบายหน่อย ที่เป็นปูนขอบๆ นี่ประตูน้ำทางนั้นนะ วาล์วน้ำทั้งนั้น เหตุที่มาของชื่อวัดป่าสมบูรณ์ธรรม ชื่อวัดนี้อาตมาก็ตั้งตามพระที่ท่านนิมิตเห็น คือท่านชวนกันมาสร้างวัด พอตกลงกันแล้วก็จะไปหาที่สร้างวัด ก็มันคิดว่าถ้าสร้างแล้วจะตั้งชื่อว่าอะไรดี เขาก็เลยบอกมา ๒ ชื่อ ในฝันนะ แต่อาตมาก็มาตัดออก วัดป่าสมบูรณ์วิเวกธรรม ที่เขาบอกมานะ แล้วก็อีกชื่อหนึ่งให้เลือกเอาชื่อมันเป็นมงคลแล้ว อาตมาก็มาเขียนใส่กระดาษไว้ ๓ ชื่อ สองชื่อก็ลืม ก็เลยได้ชื่อว่า วัดป่าสมบูรณ์ธรรม แล้วมันก็กลมกลืนกับตัวผู้มาสร้าง อาตมาก็ชื่อหลวงพ่อสมบูรณ์ มันก็เลยได้ ๒ อย่างไปในตัวเลย นี่ก็เป็นเรื่องราวที่ได้ประสบมา หลวงปู่สมบูรณ์ ท่านเป็นผู้มีอุปนิสัยชอบความสงบ เรียบง่าย ท่านมักเที่ยวออกไปตามป่าเขาลำเนาไพร สถานที่ลำบาก และสถานที่น่ากลัว เต็มไปด้วยอันตราย ท่านบอกว่า เห็นป่าเห็นเขาแล้ว “มันรู้สึกว่าเห็นมรรคผลนิพพานอยู่ไม่ไกล” เมื่อหลวงปู่สมบูรณ์ ออกเที่ยวธุดงค์มาถึงบ้านห้วยเหิน ต.ป่าแดง อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก ท่านพิจารณาเห็นว่า สถานที่แห่งนี้สมควรตั้งวัดขึ้น ท่านจึงรวบรวมคณะศิษยานุศิษย์ สร้างเป็นวัดขึ้น ชื่อเป็นวัดป่าสมบูรณ์ธรรม เพื่อเป็นที่ประพฤติปฏิบัติ และอบรมพระภิกษุสามเณร ตลอดจนอุบาสกอุบาสิกา ที่มีจิตสนใจในธรรม มาจนถึงปัจจุบัน ในปี พ.ศ.๒๕๖๐ หลวงปู่สมบูรณ์ ได้นำพาคณะศิษย์ สร้างศาลา และเจดีย์อนุสรณ์บูรพาจารย์ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและรูปเหมือนครูบาอาจารย์จนแล้วเสร็จ ท่านดำริว่า “หลวงพ่อพาพวกเราสร้างศาลา สร้างเจดีย์ ทำอย่างบริสุทธิ์ทุกส่วน ซองซองเดียวก็ไม่ได้พิมพ์ พระองค์เดียวก็ไม่ได้ขาย เห็นไหมล่ะเพราะความบริสุทธิ์ ไม่นานก็เสร็จ ทีนี้ก็เลยคิดขึ้นว่าจะจัดงานทำบุญ ถือเอาวันเกิดเป็นเหตุ ให้ญาติโยมที่บริจาคที่ช่วยเหลือมาได้เห็น ว่าเงินที่บริจาคมา แรงที่ช่วยมา หน้าตาเป็นยังไง มาเห็นของจริงแล้วจะได้อนุโมทนากับสิ่งที่ได้มาช่วยสร้างช่วยทำ ก็เลยนิมนต์ครูบาอาจารย์มาให้ได้ทำบุญกัน”
ผู้เข้าชม
647 ครั้ง
ราคา
350
สถานะ
เปิดให้บูชา
โดย
เจนพระเครือง
ชื่อร้าน
บารมีบุญพระเครื่อง
ร้านค้า
baramebun.99wat.com
โทรศัพท์
0910162844
ไอดีไลน์
rit3009
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
1. ธนาคารกสิกรไทย / 008-8-93615-9
เหรียญหัวกระโหลกพรายกระซิบ เนื
หลวงปู่สิงห์ ผาสุโก วัดบ้านกลา
พญาครุฑ รุ่นเลื่อนขั้น พลวงปู่
ขุนแผนรัญจวนจิตหลวงปู่สนม อติธ
หลวงปู่ห้วยจรัส เขมจารีพระผง
ล-ป-สนม อติธมฺโม วัดพระปราค์เห
หลวงปู่หา สุภโรพรายแม่สีนวนหลว
เหรียญ ท้าวเวสสุวรรณ เศรษฐีทวี
หลวงพ่อคีย์ กิตฺติญาโน วัดศรีล
เก้าสิบเก้าวัด
ร้านพระเครื่อง
กระดานสนทนา
ลงพระฟรี
สมัครสมาชิก
ติดต่อทีมงาน
ลืมรหัสผ่าน
ผู้เข้าใช้งานล่าสุด
Beerchang พระเครื่อง
เทพจิระ
เปียโน
หริด์ เก้าแสน
stp253
termboon
Netnapa
tumlawyer
มนต์เมืองจันท์
เอก พานิชพระเครื่อง
บ้านพระสมเด็จ
ชาวานิช
ไกร วรมัน
ชา วานิช
someman
hra7215
jocho
ว.ศิลป์สยาม
เจริญสุข
ภูมิ IR
Le29Amulet
โจ๊ก ป่าแดง
น้ำตาลแดง
hopperman
siracha
lord
tplas
ep8600
tintin
เพ็ญจันทร์
ผู้เข้าชมขณะนี้ 1472 คน
เพิ่มข้อมูล
เหรียญหัวกระโหลกพรายกระซิบ เนื้อชนวน หลวงปู่สมบูรณ์ สำนักสงฆ์เขาพลอย
ส่งข้อความ
ชื่อพระเครื่อง
เหรียญหัวกระโหลกพรายกระซิบ เนื้อชนวน หลวงปู่สมบูรณ์ สำนักสงฆ์เขาพลอย
รายละเอียด
หลวงปู่สมบูรณ์ กันตสีโล
เกิดเมื่อ 09 ธันวาคม พ.ศ.2483
อุปสมบท : ไม่ทราบแน่ชัด
สภาณภาพ : มีชีวิตอยู่
หลวงปู่สมบูรณ์ กันตสีโล หลวงปู่สมบูรณ์ กันตสีโล เกิดเมื่อวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๔๘๓ ที่จังหวัดขอนแก่น ในระหว่างใช้ชีวิตฆราวาส ท่านพิจารณาถึงการใช้ชีวิตทางโลก โดยพิจารณาจากชีวิตความเป็นอยู่ของเพื่อนบ้านและเพื่อนฝูง ทำให้ในใจท่านมีแต่ความอยากออกบวชหาความพ้นทุกข์ จนกระทั่งท่านอายุ ๓๒ ปี จึงได้ขออนุญาตมารดาเพื่อออกบวช และเดินทางไปกราบนมัสการหลวงปู่ฝั้น อาจาโร หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ถามท่านว่า “ทำไมถึงอยากมาบวช” หลวงพ่อสมบูรณ์ได้ตอบหลวงปู่ฝั้นกลับไปว่า “ขอโอกาสหลวงปู่ กระผมเห็นทุกข์ทางโลก” เพียงเท่านี้ หลวงปู่ฝั้น ก็ไม่ได้ถามอะไรต่ออีกเลย หลวงปู่สมบูรณ์ กันตสีโล ได้ออกบวชเมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๑๕ จากนั้นท่านได้อยู่อบรม ทำข้อวัตรปฏิบัติ ศึกษาธรรมกับหลวงปู่ฝั้น อาจาโร สลับกับออกเที่ยววิเวกกรรมฐาน ธุดงค์ไปในเขตพื้นที่ภาคอีสาน จนกระทั่งหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ถึงแก่กาลมรณภาพ เรื่องราวของอาตมาที่เกี่ยวกับหลวงปู่ฝั้น อาจาโร นั้นก็ไม่ถึงกับว่าได้เป็นลูกศิษย์ท่านหรอกแต่อาตมาเคยอยู่ฟังเทศน์ฟังธรรมของท่าน เคยอยู่กับท่าน ๓ ปี พอท่านมรณภาพ ลูกศิษย์ลูกค้าก็ต่างแยกย้ายกันไป ใครมีหลักใจก็อยู่ได้ ส่วนเรื่องการบวชนั้นอาตมาได้บวชที่ขอนแก่นเพราะเป็นคนขอนแก่น แต่ก่อนที่จะบวชก็ได้บวชเป็นผ้าขาวอยู่ ๑ เดือน โดยถือผ้าขาวอยู่ที่วัดป่าอุดมสมพร ตอนไปเป็นผ้าขาวอยู่นั้น ก็มีโยมแม่ไปส่งกลับอาจารย์ดาวที่เป็นญาติกันอยู่ที่นั่น ก็เช่ารถไปจากขอนแก่นไปมอบตัวเป็นลูกศิษย์ลูกค้ากับหลวงปู่ฝั้น อาจาโร พอท่องขานนาคได้ก็เลยขอลาท่านมาบวชที่ขอนแก่น ท่านก็อนุญาต อาตมาบอกกับหลวงปู่ว่า ถ้าบวชแล้วผมก็จะกลับมาจำพรรษาอยู่กับหลวงปู่เหมือนเดิม จากวัดป่าอุดมสมพรมาอาตมาก็นุ่งผ้าขาวนั่นแหละมาขอนแก่น มีบาตรอยู่ลูกหนึ่ง บวชอยู่ได้ไม่นานก็ได้เก็บบริขารขึ้นรถไปลงที่วัดป่าอุดมสมพรที่เดิม ไปจำพรรษาอยู่กับหลวงปู่ฝั้นได้ ๓ พรรษา ตั่งแต่ปี พ.ศ.๒๕๑๕-๒๕๑๗ พอปี ๒๕๑๘ ก็กลับมาขอนแก่น พอปี ๒๕๑๙ ก็ไปจำพรรษาอยู่ที่จังหวัดหนองคาย อำเภอโพนพิสัย เป็นวัดตั้งใหม่ มีคนเขาถวายที่ให้ ๑๒ ไร่ ธุดงค์ไปแต่ในที่วิเวก ย้ายออกมาแล้วอาตมาก็กลับไปอีกทีเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๔ ก็ไปถามข่าว เขารื้อแล้ว เพราะเจ้าของเขาเอาที่ดินคืน เขาก็เลยมาสร้างที่ป่าช้า อยู่ห่างจากหมู่บ้านไปอีก ๒ กิโลเมตร ปลูกกระต๊อบอยู่ ไม่ได้เป็นวัด ชนะก็ยกเป็นหลัง หลังละ ๒ ห้อง หลังหนึ่งมุงสังกะสี อีกหลังมุงหญ้าแฝก ใช่ไหมอัดแผ่นหนึ่งเป็นหลังคา พอดีจะทำห้องน้ำ ห้องน้ำก็ไม่มีฝา ก็เลยแกะเอาไม้อัดมาทำเป็นฝาห้องน้ำ กุฏิที่อยู่ก็เลยต้องใช้เสื่อ ที่เราปูนั่งนี่แหละเป็นหลังคา อยู่มาตลอดพรรษา พระออกพรรษาประมาณเดือน ๑๒ ก็หนีเที่ยวมาเลยจนมาถึงจังหวัดเลย อยู่จังหวัดเลย ๑๐ ปี อยู่ที่อำเภอภูเรือ อำเภอท่าลี่ อำเภอวังสะพุง เที่ยวอยู่แต่ในที่วิเวก บ้านป่าบ้านดง สถานที่เก่าของหลวงปู่ชอบ ฐานสโม แถวนั้นเขารู้จักกะมาหมดแหละ นอนตามป่าช้า นอนตามไร่ข้าวโพดเขา พอตื่นเช้าก็ออกบิณฑบาต พอเป็นที่สัปปายะ ภาวนาแล้วจิตใจสงบก็อยู่ไป ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องความสุขทางกาย ไปอยู่สองคอนเดือนมีนาคมต่อเดือนเมษายนนี่ฝนตกตลอด มันหนาวยังกับเดือน ๑๒ เลยนะ พ่อกลางคืนฝนตกเพิงที่พักอยู่เปียกหมด ต้องเอากลดเอามุ้งออก เสือก็เอามานั่งทับไว้ สบงจีวรยัดใส่ในบาตรเอาฝาปิดไว้ นั่งสมาธิแล้วก้มหัวลงกับบาตร เรียกว่านอนลิง พอฝนหยุดตกแห้งแล้วก็เอาเสื่อมาปูแล้วก็กลางกลด แทบจะไม่ได้นอนเลย หลายวันเข้าก็คิดว่า เรามาอยู่นี่ก็ลำบากพอสมควร คิดว่าพรุ่งนี้จะลองถามเขาดู ถ้าเขาทำที่พักให้ก็จะอยู่จำพรรษาด้วย คิดในใจอย่างนี้ แต่ก่อนถนนหนทางก็เป็นทางดินลูกรังธรรมดา ไม่มีรถผ่าน พอเป็นทางลาดยางแล้วรถก็วิ่งเกือบทั้งคืนเลย เดี๋ยวนี้หาความสงบไม่มี พ่อคุยกับเขาแล้วเขาก็ทำที่พักให้เป็นกระต๊อบ ก็อยู่ไปพอใกล้เข้าพรรษา เขาก็เลยไปนิมนต์ ท่านพระอาจารย์สมศรี อัตตสิริ นิมนต์มาจากวัดป่าสวนกล้วย ที่ท่านเคยอยู่กับท่านพระอาจารย์จันทร์เรียน คุณวโร ที่วัดถ้ำสหายธรรม (ปัจจุบันหลวงพ่อสมศรี ท่านอยู่วัดป่าเวฬุวนาราม ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย) ท่านพระอาจารย์จันทร์เรียนก็บอกว่าก็ดีทั้งศรี จะได้เอายาหัวมาต้มด้วย ตอนอยู่ที่บ้านสองคอนนี้นะ อาตมามานอนอยู่ที่ป่าช้า นี่บางคนยังนึกว่าอาตมาเป็นผี เป็นพระที่กินคน บางคนเขาก็กลัวนะ เห็นอาตมาออกบิณฑบาตอยู่นี่เขาก็วิ่งหนีเลยนะ คือเมื่อก่อนมันมีข่าวว่า พระกินคน ฆ่ากันกิน ฆ่าคนตาย ชาวบ้านมาเก็บเห็ดเก็บอะไรตามป่า เห็นอาตมานี่วิ่งหนีเลย ถึงขนาดนั้นเลยนะสมัยก่อนคนบ้านป่าบ้านดง ปลูกป่าสร้างวัด ที่อาตมามาอยู่นี่มันก็แปลกเหมือนกันนะ มาอยู่ได้ยังไง ไม่อยู่ตั้งแต่ปีพ.ศ.๒๕๓๖ ป่าที่เห็นอยู่นี้อาตมาปลูกใหม่นะ แต่ก่อนลบหมดเลย ไม่มีอะไรเลย เนื้อที่ทั้งหมด ๑๕๐ ไร่ แต่ก่อนเขามาเอาดินไปขาย ตอนที่อาตมาปลูกต้นไม้นี่ทีแรกเลย ก่อนที่จะมีก๊อกน้ำว่าเป็นจุดๆ ตอนเช้ามืดกว่าจะสว่างเอาสายยางเสียบหัวก๊อกแล้วก็ดึงลากมารดน้ำต้นไม้ เอาผ้ากรองแขวนไว้ตรงเอวหรือสะพายไว้ ใกล้สว่างก็วางสายยางแล้วก็ไปลงศาลา จัดศาลา บางทีก็จัดศาลาก่อน บางทีตี ๓ ตี ๔ ไปจากศาลาเสร็จแล้วก็มารดน้ำต้นไม้ ว่าจะสว่างก็เข้ากุฏิวางผ้าครอง ออกไปศาลาคลองผ้าแล้วก็ออกไปบิณฑบาต ไปๆ มาๆ โยมจากกรุงเทพฯ ก็ไม่เห็นอาตมาทำอย่างนี้เขาก็เลยซื้อสายยางมาให้ ก็เลยได้ระบบน้ำหยด ไปหาซื้อที่จังหวัดเลย ปุ๋ยเขาก็ให้งานเกษตรอำเภอขายไม่หมดมันค้างสต๊อก เขาก็เลยเอามาถวายพระ พอทำน้ำหยดก็สบายหน่อย ที่เป็นปูนขอบๆ นี่ประตูน้ำทางนั้นนะ วาล์วน้ำทั้งนั้น เหตุที่มาของชื่อวัดป่าสมบูรณ์ธรรม ชื่อวัดนี้อาตมาก็ตั้งตามพระที่ท่านนิมิตเห็น คือท่านชวนกันมาสร้างวัด พอตกลงกันแล้วก็จะไปหาที่สร้างวัด ก็มันคิดว่าถ้าสร้างแล้วจะตั้งชื่อว่าอะไรดี เขาก็เลยบอกมา ๒ ชื่อ ในฝันนะ แต่อาตมาก็มาตัดออก วัดป่าสมบูรณ์วิเวกธรรม ที่เขาบอกมานะ แล้วก็อีกชื่อหนึ่งให้เลือกเอาชื่อมันเป็นมงคลแล้ว อาตมาก็มาเขียนใส่กระดาษไว้ ๓ ชื่อ สองชื่อก็ลืม ก็เลยได้ชื่อว่า วัดป่าสมบูรณ์ธรรม แล้วมันก็กลมกลืนกับตัวผู้มาสร้าง อาตมาก็ชื่อหลวงพ่อสมบูรณ์ มันก็เลยได้ ๒ อย่างไปในตัวเลย นี่ก็เป็นเรื่องราวที่ได้ประสบมา หลวงปู่สมบูรณ์ ท่านเป็นผู้มีอุปนิสัยชอบความสงบ เรียบง่าย ท่านมักเที่ยวออกไปตามป่าเขาลำเนาไพร สถานที่ลำบาก และสถานที่น่ากลัว เต็มไปด้วยอันตราย ท่านบอกว่า เห็นป่าเห็นเขาแล้ว “มันรู้สึกว่าเห็นมรรคผลนิพพานอยู่ไม่ไกล” เมื่อหลวงปู่สมบูรณ์ ออกเที่ยวธุดงค์มาถึงบ้านห้วยเหิน ต.ป่าแดง อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก ท่านพิจารณาเห็นว่า สถานที่แห่งนี้สมควรตั้งวัดขึ้น ท่านจึงรวบรวมคณะศิษยานุศิษย์ สร้างเป็นวัดขึ้น ชื่อเป็นวัดป่าสมบูรณ์ธรรม เพื่อเป็นที่ประพฤติปฏิบัติ และอบรมพระภิกษุสามเณร ตลอดจนอุบาสกอุบาสิกา ที่มีจิตสนใจในธรรม มาจนถึงปัจจุบัน ในปี พ.ศ.๒๕๖๐ หลวงปู่สมบูรณ์ ได้นำพาคณะศิษย์ สร้างศาลา และเจดีย์อนุสรณ์บูรพาจารย์ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและรูปเหมือนครูบาอาจารย์จนแล้วเสร็จ ท่านดำริว่า “หลวงพ่อพาพวกเราสร้างศาลา สร้างเจดีย์ ทำอย่างบริสุทธิ์ทุกส่วน ซองซองเดียวก็ไม่ได้พิมพ์ พระองค์เดียวก็ไม่ได้ขาย เห็นไหมล่ะเพราะความบริสุทธิ์ ไม่นานก็เสร็จ ทีนี้ก็เลยคิดขึ้นว่าจะจัดงานทำบุญ ถือเอาวันเกิดเป็นเหตุ ให้ญาติโยมที่บริจาคที่ช่วยเหลือมาได้เห็น ว่าเงินที่บริจาคมา แรงที่ช่วยมา หน้าตาเป็นยังไง มาเห็นของจริงแล้วจะได้อนุโมทนากับสิ่งที่ได้มาช่วยสร้างช่วยทำ ก็เลยนิมนต์ครูบาอาจารย์มาให้ได้ทำบุญกัน”
ราคาปัจจุบัน
350
จำนวนผู้เข้าชม
648 ครั้ง
สถานะ
เปิดให้บูชา
โดย
เจนพระเครือง
ชื่อร้าน
บารมีบุญพระเครื่อง
URL
http://www.baramebun.99wat.com
เบอร์โทรศัพท์
0910162844
ID LINE
rit3009
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
1. ธนาคารกสิกรไทย / 008-8-93615-9
กำลังโหลดข้อมูล
หน้าแรกลงพระฟรี